วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2556
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ: นางสาวนัซรียา สันหละ
ชื่อเล่น: นัซ
โรงเรียน: จุฬาภรณราชวิทยาลัย สตูล
ชั้น : มัธยมศึกษาปีที่ 5 / แลมด้า
เลขที่: 22
ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิต
สิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมทางชีวภาพ
|
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต
สิ่งแวดล้อมทางกายภาพ
องค์ประกอบที่ไม่มีชีวิตทุกอย่างที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น แสงสว่าง อุณหภูมิ แร่ธาตุ ความชื้น อากาศและก๊าซต่างๆ ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำ ความเค็ม กระแสลม กระแสน้ำ จะมีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในระบบนิเวศ และจะมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
แสงสว่าง
แสงจากดวงอาทิตย์เป็นพลังงานที่มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก ปริมาณแสงในธรรมชาติแต่ละแห่งจะแตกต่างกันทำให้สิ่งมีชีวิตในแต่ละแห่งแตกต่างกันไป พืชต้องการแสงจากดวงอาทิตย์มากกว่าสัตว์ พืชใช้แสงเป็นพลังงานในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างสารอาหาร สารอาหารสร้างขึ้นจะถ่ายทอดไปยังสัตว์ในห่วงโซ่อาหาร ความต้องการแสงของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างกันทำให้พืชที่มีแสงสว่างส่องถึง จะมีความหนาแน่นมากกว่าบริเวณที่มีแสงส่องถึงน้อย พืชแต่ละชนิดต้องการแสงในปริมาณแตกต่างกัน
แสงจะมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ด้วยเช่นกัน สัตว์บางชนิดต้องการแสงน้อย มักอาศัยอยู่ในร่มเงาหรือในที่มืด เช่น ตัวอ่อนของแมลงในทะเลทรายซึ่งมีแสงมากในเวลากลางวัน สัตว์จะหลบซอนตัวและจะออกหากินในเวลากลางคืน ในทะเลลึกจะมีแสงสว่างน้อยมากหรือไม่มีเลย สัตว์จะมีอวัยวะที่ทำหน้าที่กำเนิดแสงได้เองเป็นต้น
แสงจากดวงอาทิตย์เป็นพลังงานที่มีอิทธิพลต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก ปริมาณแสงในธรรมชาติแต่ละแห่งจะแตกต่างกันทำให้สิ่งมีชีวิตในแต่ละแห่งแตกต่างกันไป พืชต้องการแสงจากดวงอาทิตย์มากกว่าสัตว์ พืชใช้แสงเป็นพลังงานในกระบวนการสังเคราะห์แสงเพื่อสร้างสารอาหาร สารอาหารสร้างขึ้นจะถ่ายทอดไปยังสัตว์ในห่วงโซ่อาหาร ความต้องการแสงของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างกันทำให้พืชที่มีแสงสว่างส่องถึง จะมีความหนาแน่นมากกว่าบริเวณที่มีแสงส่องถึงน้อย พืชแต่ละชนิดต้องการแสงในปริมาณแตกต่างกัน
แสงจะมีอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ด้วยเช่นกัน สัตว์บางชนิดต้องการแสงน้อย มักอาศัยอยู่ในร่มเงาหรือในที่มืด เช่น ตัวอ่อนของแมลงในทะเลทรายซึ่งมีแสงมากในเวลากลางวัน สัตว์จะหลบซอนตัวและจะออกหากินในเวลากลางคืน ในทะเลลึกจะมีแสงสว่างน้อยมากหรือไม่มีเลย สัตว์จะมีอวัยวะที่ทำหน้าที่กำเนิดแสงได้เองเป็นต้น
อุณหภูมิ
สิ่งมีชีวิตจะเลือกแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับตัวเอง โดยปกติอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 10-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิบนพื้นดินจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าในน้ำ จึงทำให้สิ่งมีชีวิตบนพื้นดินมีการปรับตัวในหลายลักษณะ เช่น การอพยพหนีหนาวของนกนางแอ่นจากประเทศจีนมาหากินในประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว การจำศีลของกบเพื่อหนีร้อนหรือหนีหนาว
สิ่งมีชีวิตจะเลือกแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีอุณหภูมิเหมาะสมกับตัวเอง โดยปกติอุณหภูมิที่เหมาะสมประมาณ 10-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิบนพื้นดินจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าในน้ำ จึงทำให้สิ่งมีชีวิตบนพื้นดินมีการปรับตัวในหลายลักษณะ เช่น การอพยพหนีหนาวของนกนางแอ่นจากประเทศจีนมาหากินในประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว การจำศีลของกบเพื่อหนีร้อนหรือหนีหนาว
แร่ธาตุและก๊าซ
พืชและสัตว์นำแร่ธาตุและก๊าซต่างๆ ไปใช้ในการสร้างอาหารและโครงสร้างของร่างกาย ความต้องการแร่ธาตุและก๊าซของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างกัน พืชต้องการออกซิเจนต่ำกว่าสัตว์เพราะสัตว์มีการเคลื่อนไหวกว่าพืช พืชต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าสัตว์เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง เป็นต้น
ก๊าซและแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ ออกซิเจน คาร์บอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฯลฯ ซึ่งจะมีอยู่ในระบบนิเวศในปริมาณที่แตกต่างกัน ในดินจะมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชพวกไนโตรเจนฟอสฟอรัส โพแทสเซียมในปริมาณสูง และปริมาณของแร่ธาตุดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ด้วย จึงทำให้ลักษณะเฉพาะของพืชและสัตว์มีความแตกต่างกันด้วย
พืชและสัตว์นำแร่ธาตุและก๊าซต่างๆ ไปใช้ในการสร้างอาหารและโครงสร้างของร่างกาย ความต้องการแร่ธาตุและก๊าซของสิ่งมีชีวิตจะมีความแตกต่างกัน พืชต้องการออกซิเจนต่ำกว่าสัตว์เพราะสัตว์มีการเคลื่อนไหวกว่าพืช พืชต้องการก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงกว่าสัตว์เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง เป็นต้น
ก๊าซและแร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ ออกซิเจน คาร์บอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฯลฯ ซึ่งจะมีอยู่ในระบบนิเวศในปริมาณที่แตกต่างกัน ในดินจะมีแร่ธาตุที่จำเป็นต่อพืชพวกไนโตรเจนฟอสฟอรัส โพแทสเซียมในปริมาณสูง และปริมาณของแร่ธาตุดังกล่าวจะแตกต่างกันไปตามสภาพพื้นที่ด้วย จึงทำให้ลักษณะเฉพาะของพืชและสัตว์มีความแตกต่างกันด้วย
ความชื้น
ปริมาณของไอน้ำที่อยู่ในอากาศ จะเปลี่ยนแปลงไปตามพื้นที่ ฤดูกาล เช่น ในเขตร้อนปริมาณความชื้นจะสูง เนื่องจากมีฝนตกอย่างสม่ำเสมอ ในเขตหนาวจะมีความชื้นน้อย ความชื้นจะมีผลโดยตรงต่อสมดุลของน้ำในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ทำให้ปริมาณ ชนิด และการกระจายของสิ่งมีชีวิตในเขตร้อนมีความหลากหลายมากกว่าในเขตหนาว
ปริมาณของไอน้ำที่อยู่ในอากาศ จะเปลี่ยนแปลงไปตามพื้นที่ ฤดูกาล เช่น ในเขตร้อนปริมาณความชื้นจะสูง เนื่องจากมีฝนตกอย่างสม่ำเสมอ ในเขตหนาวจะมีความชื้นน้อย ความชื้นจะมีผลโดยตรงต่อสมดุลของน้ำในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ทำให้ปริมาณ ชนิด และการกระจายของสิ่งมีชีวิตในเขตร้อนมีความหลากหลายมากกว่าในเขตหนาว
ความเค็ม
ความเค็มของดินและน้ำ เป็นปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ พืชบางชนิดไม่สามารถที่จะเจริญเติบโตได้ในดินเค็มแต่บางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดี เช่น ผักบุ้งทะเล ในปัจจุบันพื้นที่ชายทะเลบางพื้นที่ประสบปัญหาเรื่องดินเค็ม อันเนื่องมาจากการทำนากุ้ง การทำนาเกลือ
ความเค็มของดินและน้ำ เป็นปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต ทั้งพืชและสัตว์ พืชบางชนิดไม่สามารถที่จะเจริญเติบโตได้ในดินเค็มแต่บางชนิดสามารถเจริญเติบโตได้ดี เช่น ผักบุ้งทะเล ในปัจจุบันพื้นที่ชายทะเลบางพื้นที่ประสบปัญหาเรื่องดินเค็ม อันเนื่องมาจากการทำนากุ้ง การทำนาเกลือ
กระแสลม
กระแสน้ำ
กระแสน้ำเป็นปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตในน้ำ ความเข้มข้น ของก๊าซ และอาหารที่ละลายหรือลอยอยู่ในน้ำ พฤติกรรม จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแหล่งน้ำ ความเข้มข้นของก๊าซ และอาหารที่ละลายหรือลอยอยู่ในน้ำ พฤติกรรม จำนวนของสิ่งมีชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหลจะแตกต่างกัน
กระแสน้ำเป็นปัจจัยทางกายภาพที่มีผลต่อการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตในน้ำ ความเข้มข้น ของก๊าซ และอาหารที่ละลายหรือลอยอยู่ในน้ำ พฤติกรรม จำนวนของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในแหล่งน้ำ ความเข้มข้นของก๊าซ และอาหารที่ละลายหรือลอยอยู่ในน้ำ พฤติกรรม จำนวนของสิ่งมีชีวิตอยู่ในแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหลจะแตกต่างกัน
ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำ
สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ในดินและแหล่งน้ำที่มีความเป็นกรด-เบส ของดินและน้ำที่เหมาะสม จึงจะสามารถเจริญเติบโตและดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำจะขึ้นอยู่กับปริมาณของแร่ธาตุที่ละลายปะปนอยู่
สิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ในดินและแหล่งน้ำที่มีความเป็นกรด-เบส ของดินและน้ำที่เหมาะสม จึงจะสามารถเจริญเติบโตและดำรงชีวิตอยู่ได้ตามปกติ ความเป็นกรด-เบสของดินและน้ำจะขึ้นอยู่กับปริมาณของแร่ธาตุที่ละลายปะปนอยู่
ความสัมพันธ์
ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
ในระบบนิเวศสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมมีความสัมพันธ์ต่อกัน เช่น ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ เช่น ดิน น้ำ แสงสว่าง อากาศ แร่ธาตุ ความชื้น อุณหภูมิ เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมทางกายภาพดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต และการเปลี่ยนแปลงของสิ่งมีชีวิต ก็จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นกัน ระบบนิเวศที่มีความสมดุลระหว่างสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตจะก่อให้เกิดสมดุลในธรรมชาติ
วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556
ประเภทของระบบนิเวศ
โลกเป็นระบบนิเวศที่ใหญ่ที่สุด เรียกว่า โลกของสิ่งมีชีวิต หรือชีวภาค (biosphere) และสิ่ง แวดล้อมในโลกของเราแต่ละบริเวณจะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพทางภูมิศาสตร์ และ สภาพภูมิอากาศ ก่อให้เกิดระบบนิเวศที่หลากหลายแตกต่างกันไปมีมากมายหลายระบบ ขนาด ใหญ่บ้าง เล็กบ้างมีความสลับซับซ้อนแตกต่างกันไป ซึ่งเราสามารถจำแนกระบบนิเวศออกเป็น 2 ระบบใหญ่ คือ
- ระบบนิเวศตามธรรมชาติ เป็นระบบนิเวศที่เกิดขึ้นเองและมีอยู่ในธรรมชาติ ได้แก่
*ระบบนิเวศน้ำจืด เช่น ระบบนิเวศแม่น้ำ ลำคลอง
หนอง บึง เป็นต้น
ความหมายของระบบนิเวศ
- ระบบนิเวศ(ecosystem) คือ ระบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ในแหล่งที่อยู่แหล่งใดแหล่งหนึ่งซึ่งมีความสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ กันนี้จะมี 2 ลักษณะ คือ
1. ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยรวมกันในแหล่งที่ อยู่นั้น จัดเป็นความสัมพันธ์ทางชีวภาพ
2. ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อมของแหล่งที่อยู่ ซึ่งเป็นสิ่งแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่ ดิน น้ำ อากาศ แร่ธาตุ แสง สว่าง เป็นต้น
ความสัมพันธ์ทั้ง 2 ลักษณะดังกล่าว จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ในระบบ นิเวศทุกระบบต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอยู่ อย่างโดดเดี่ยวได้ หากสิ่งแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่งถูกรบกวนก็จะ ส่งผลกระทบถึงการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น และจะส่งผลถึง กันและกันทั้งระบบ
การ์ตูนวิทยาศาสตร์ "ระบบนิเวศ"
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)

.jpg)
.jpg)







